Doctor At Home: โรคพยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchiasis) โรคพยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchiasis) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งเป็นพยาธิชนิดตัวแบนคล้ายใบไม้ พยาธิชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในท่อน้ำดีของตับ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นมะเร็งที่อันตรายและพบได้มากในประเทศไทยโดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สาเหตุและช่องทางการติดต่อ
การติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับเกิดจากการรับประทานอาหารที่ปรุงไม่สุก โดยเฉพาะ ปลาน้ำจืดที่มีเกล็ด ที่มีตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้อาศัยอยู่ เช่น ปลาตะเพียน, ปลาสร้อย, หรือปลาขาว เมื่อคนนำปลาดังกล่าวมาทำอาหารแบบดิบๆ หรือสุกๆ ดิบๆ เช่น ก้อยปลา, ปลาร้าดิบ, หรือปลาจ่อม ตัวอ่อนของพยาธิก็จะเข้าสู่ร่างกายและเดินทางไปเจริญเติบโตในท่อน้ำดีในตับ
อาการที่สังเกตได้
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับส่วนใหญ่ในระยะแรกอาจไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่ชัดเจน แต่หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน อาการจะเริ่มรุนแรงขึ้น
อาการในระยะแรก: อาจมีอาการท้องอืด, ท้องเฟ้อ, ปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวา, หรือเบื่ออาหาร
อาการในระยะรุนแรง: เมื่อพยาธิสะสมเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เกิดอาการดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง), ตับโต, มีไข้ต่ำๆ, หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัย: แพทย์จะวินิจฉัยจากประวัติการรับประทานอาหาร, อาการที่แสดงออก และการตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่ของพยาธิ
การรักษา: การรักษาหลักคือการรับประทาน ยาฆ่าพยาธิ โดยแพทย์จะให้ยา Praziquantel ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดพยาธิ และในกรณีที่มีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงอาจต้องใช้ยาชนิดอื่นร่วมด้วย
การป้องกัน
วิธีป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับที่ดีที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
งดรับประทานอาหารดิบ: เลิกพฤติกรรมการรับประทานปลาน้ำจืดแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ทุกชนิด
ปรุงอาหารให้สุก: ควรปรุงอาหารจากปลาน้ำจืดให้สุกทั่วถึงด้วยความร้อนที่เหมาะสม
ดูแลสุขอนามัย: ไม่ควรปล่อยปละละเลยในการขับถ่าย ควรขับถ่ายในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของพยาธิสู่สิ่งแวดล้อม